น้ำตกม่านฟ้า 
ผมก็เลยจะพาทุกคนไปเที่ยวในแบบลุยๆกับสถานที่ท่องเที่ยวของวังน้ำเขียวกันดูบ้าง เผื่อใครอยากเปลี่ยนแนว หรือได้มีโอกาสมาเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาวกันก่อน…
ว่ากันว่าจุดนี้เป็นทางผ่าน (บ้างก็อยู่ในจุดหมาย) เชื่อว่าใครหลายๆคนคงรู้จักและต้องแวะเสมอถ้ามาเที่ยววังน้ำเขียว
เมื่อแบ่งตามลักษณะภูมิประเทศออกเป็นสองฝั่งโดยใช้ ถนน 304 เป็นเส้นแบ่งก็จะทำให้วังน้ำเขียวมีสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆอยู่สองฝั่งถนนเส้นหลัก โดยผมขอตั้งเป็นฝั่ง”เขาแผงม้า”ก็แล้วกัน เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามที่สามารถวิ่งไปมาหากันระหว่าง วังน้ำเขียว-เขาใหญ่-ปากช่อง และบางที่ก็เป็นเส้นทางหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจากทางกรุงเทพไปแล้ว
แล้วอีกฝั่งล่ะ ผมขอตั้งเป็นฝั่ง “ไทยสามัคคี” ก็แล้วกัน ฝั่งไทยสามัคคี ปีนี้เราได้แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอำเภอวังน้ำเขียวกันเลย นั่นก็คือ รูปหล่อองค์หลวงพ่อคูณใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่ วัดบ้านไร่2 (วัดบุไผ่) มองเห็นชัดเจนเมื่อผ่านเส้นทางหลัก 304 เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเข้ามาสักการะกัน
ถ้าถามผมชอบเที่ยวฝั่งไหน ผมก็ตอบได้ว่าชอบเที่ยวทั้งสองฝั่ง ตามฤดูกาลกันไป แต่ผมชอบฝั่งไทยสามัคคีมากกว่าเพราะมีที่เที่ยวที่ลุยเยอะดี ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าๆ ได้ตื่นมาสูดอากาศสดชื่นแบบนี้
“ผาเก็บตะวัน” ในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ จะได้เห็นสายหมอกบางๆอยู่บ้าง ถ้าวันไหนโชคดีหน่อยก็มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกกับเขาบ้างเหมือนกัน (แต่ผมยังโชคไม่ดีพอ)
หรือจะเป็นยามเย็น กับแสงอุ่นๆในฤดูกาลที่เริ่มเปลี่ยนแปลงจากฝนมาเป็นหนาวกันแล้ว ที่นักท่องเที่ยวต่างมายืนสัมผัสแสงอุ่นๆกันยามเย็นเยอะเหมือนกัน
และนั่นก็คือเส้นทางท่องเที่ยวหลักๆ ของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปที่มาเที่ยววังน้ำเขียวครับ จริงๆมีอีกเยอะแต่เดี๋ยวก่อน…เดี๋ยวจะยาวออกนอกเรื่องกันเสียหมด
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ด้วยความที่ผมชอบเที่ยวป่าเที่ยวเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเที่ยวน้ำตก จึงเป็นอะไรที่ชอบมากๆ เสียงป่า เสียงน้ำตก มันทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายจริงๆ เหมาะกับช่วงนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้ว วังน้ำเขียว จึงมีน้ำตกให้ได้เที่ยวได้เล่นกันไปจนหมดน้ำ
(กลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน)กันนั่นแหล่ะ
ด้วยความที่น้ำแรงและน้ำเยอะ ทำให้บริเวณนั้นเต็มไปด้วยความชื้นและลื่นเอามากๆ
ด้วยความที่น้ำแรงและน้ำเยอะ ทำให้บริเวณนั้นเต็มไปด้วยความชื้นและลื่นเอามากๆ
แค่คุณเข้าใกล้ๆ ก็เปียกไปเกือบหมดทั้งตัวแล้ว และที่สำคัญ เดินต้องระมัดระวังเอามากๆ เพราะผมลื่นล้มหลายครั้งอยู่เหมือนกัน
เดินกลับลงมาจากน้ำตกม่านฟ้าแล้วก็แวะมาเล่นน้ำต่อที่น้ำตกห้วยใหญ่ (ชั้น2) กันครับ น้ำยยังขุ่น(น้ำป่า)อยู่ แต่ก็เล่นได้ครับเย็นชุ่มฉ่ำกำลังดีเลย
เดินเก็บภาพเก็บภาพไปเรื่อย แช่ขาไปเรื่อยครับ
ไปคนเดียว ลุยคนเดียว ก็ต้องหาวิธีเซลฟี่กับเขาบ้าง เมื่อก่อนไปเที่ยวมีแต่รูปสถานที่ รูปวิว รูปสารพัดรูป แต่กลับมา รูปตัวเองหาแทบไม่มี มาคราวนี้ต้องเปลี่ยนใหม่ เก็บไว้บ้างรูปสองรูปพอเป็นหลักฐานว่าเราไปมาจริง ไปมาแล้ว อิอิ
ไปคนเดียว ลุยคนเดียว ก็ต้องหาวิธีเซลฟี่กับเขาบ้าง เมื่อก่อนไปเที่ยวมีแต่รูปสถานที่ รูปวิว รูปสารพัดรูป แต่กลับมา รูปตัวเองหาแทบไม่มี มาคราวนี้ต้องเปลี่ยนใหม่ เก็บไว้บ้างรูปสองรูปพอเป็นหลักฐานว่าเราไปมาจริง ไปมาแล้ว อิอิ
หลังจากชุ่มฉ่ำกันแล้ว ก็ไปกันต่อที่ชั้นที่ 1 ครับ เดินย้อนออกมาไม่ไกล หรือจะขับรถไปจอดไว้ตรงทางลงน้ำตกก็ได้
เดินลงมาแบบชิวๆ เลยครับ ไม่นานก็ถึงน้ำตก น้ำตกห้วยใหญ่ชั้นที่ 1 ชั้นนี้สูงและสวยในแบบของมัน น้ำแรงลงเล่นไม่ได้ อันตรายครับ ได้แค่ถ่ายรูป สัมผัสกับบรรยากาศให้หายเหนื่อย
อ้อ…ที่สำคัญ อย่าลืมเอายากันยุงติดตัวมาด้วยนะครับ ในป่าแบบนี้ยุงลายเยอะมากๆ นั่งเล่นไปตบยุงไป จากสนุกๆ จะกลายเป็นไม่สนุกเอาได้
ส่วนเซตนี้นี้ถ่ายเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2557 ปีที่แล้วครับ น้ำน้อยกว่าช่วงเดือน ตุลาคมเหมาะกำลังดี
เป็นน้ำตกเหมาะกับการพาครอบครัว พาเด็กๆมาเล่นน้ำ (ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ)
เด็กๆจะชอบมาก เมื่อปีที่แล้วผมพาหลานๆไปเล่น ไม่อยากเลิกกันเลยทีเดียว (ตอนเด็กๆเราไม่มีโอกาสได้เล่นแบบนี้เลย) บอกหลานๆว่าเปิดเทอมปีนี้ว่าจะพาไปเล่นใหม่
และยังมีอีกน้ำตกคือ น้ำตกสวนห้อม ที่จะมีป้ายทางแยกบอกก่อนเข้ามาเส้นทางน้ำตกห้วยใหญ่ แต่ว่าการเดินทางค่อนข้างลำบาก รถยนต์เข้าไม่ได้ เพราะถนนเละมาก จะมีก็แต่สองล้อที่เข้าไปได้ง่ายและคล่องตัวกว่า แต่ก็เดินลงไปลึกและไกลพอสมควร ถ้าไปคนเดียว มีเสียว เลยขอเอาภาพของปีทีผ่านมา มาให้ดู
“น้ำตกสวนห้อม” น้ำตกเล็กๆ ที่มีที่เล่นน้ำ กระโดดน้ำได้ (ยุงเยอะเป็นพิเศษ) ถ้าจะให้ดีต้องมากันอย่างน้อยสักสองคน
“น้ำตกสวนห้อม” น้ำตกเล็กๆ ที่มีที่เล่นน้ำ กระโดดน้ำได้ (ยุงเยอะเป็นพิเศษ) ถ้าจะให้ดีต้องมากันอย่างน้อยสักสองคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น